แนวโน้มอนาคตของฐานข้อมูล



            นายไลโอเนล ลิม รองประธานและกรรมการผู้จัดกกการในภิภาคเอเชียใต้ บริษัท ซัน ไครซิสเต็มส์ อิงค์ เปิดเผยว่า ซันฯ วางแนวคิดล่วงหน้า 10 ปี (ปี 2002-2012) ไว้แล้ว ว่าจะเน้นบุกไปที่เรื่องของเทคโนโลยีบนเครือข่าย เพราะเชื่อว่าต่อไปในอนาคตอินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังที่สำคัญ โดยทุกสิ่งบนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือบริการ จะเปรียบเป็นองค์ประกอบหนึ่งบนเครือข่าย และจะเชื่อมโยงเข้ากับเทคโนโลยีเบลด (Blade) ยกตัวอย่างให้เป็นรูปธรรมคือ ในอนาคต เครื่องคอมพิวเตอร์ การรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น SSL หรือระบบปฏิบัติการใดๆ บนอินเทอร์เน็ตจะเปรียบเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของระบบเครือข่าย ที่ต่อไปองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้จะสามารถลดรูปให้อยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์    เบลดได้ ทั้งหมดสอดคล้องกับแนวคิด เอ็น วัน (N1) ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ของซันฯ ที่จะมองระบบเครือข่ายเป็นภาพรวมและให้สามารถจัดการองค์ประกอบต่างๆ บนเครือข่ายได้จากศูนย์กลาง โดยข้ามข้อจำกัดของการทำงานร่วมกัน ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ เหล่านั้น เช่น ระบบปฏิบัติการ ระบบฐานข้อมูล ตัวเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ เป็นต้น ดังนั้นจำเป็นต้องมีส่วนเชื่อมโยงตรงกลางระหว่างความแตกต่างดังกล่าว โดยส่วนที่จะมาเชื่อมโยงความแตกต่างของระบบปฏิบัติการคือ Compute Virtualization Engine และส่วนที่จะมาเชื่อมโยงความแตกต่างของระบบฐานข้อมูลคือ Storage Virtualization Engine ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่อยู่ในรูปซอฟต์แวร์ที่จะมาบริหารจัดการ และซันฯ กำลังทุ่มกำลังเพื่อพัฒนาขึ้นมา

          นายลิม กล่าวต่อว่า ซันฯ ได้เปิดตัวแนวคิดใหม่นี้ในประเทศไทยไปแล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ และได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก เพราะสองส่วนหลักที่เป็นปัญหาใหญ่ของการทำงานบนเครือข่าย คือการจัดการข้ามแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ แพลตฟอร์มระบบฐานข้อมูล และแพลตฟอร์มของเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์นั่นเอง หากแก้ปัญหาเหล่านี้ได้จะสามารถข้ามข้อจำกัด และเพิ่มศักยภาพของระบบได้

          นอกจากนี้ เมื่อผสมผสานแนวคิดนี้เข้ากับเทคโนโลยีเบลด พบว่าจะสามารถรวมอุปกรณ์ทุกอย่างของระบบ ให้อยู่ในรูปของเบลดและรวมอยู่ในตู้เบลดตู้เดียวกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเบลดเซิร์ฟเวอร์ของระบบปฏิบัติการวินโดว์ ลีนุกซ์ ยูนิกซ์ รวมถึงองค์ประกอบอื่น เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย SSL ก็สามารถอยู่ในรูปของอุปกรณ์เบลดได้เช่นกัน ตามแนวคิดดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่จำเป็นต้องบริหารข้อมูลจำนวนมาก ผ่านระบบที่แตกต่างกันสามารถ ลดความยุ่งยากรวมถึงต้นทุนการดำเนินงานไปได้เป็นจำนวนมาก 
           
        ปัจจุบันซันฯ เริ่มออกผลิตภัณฑ์ตามแนวคิดเอ็น วันแล้ว โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือศูนย์รับฝาก และบริหารข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย (ดาต้า เซ็นเตอร์) รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่มีระบบปฏิบัติการและระบบฐานข้อมูลที่แตกต่างกันจำนวนมาก แต่จำเป็นต้องทำงานร่วมกัน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น